วันพฤหัสบดีที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2560

สุดสาคร

สุดสาคร

        สุดสาคร เป็นตัวละครในเรื่องพระอภัยมณี โดยสุดสาครเป็นลูกของพระอภัยมณีกับนางเงือกที่ช่วยเหลือพระอภัยมณีหนีมายังเกาะแก้วพิสดาร สุดสาครเกิดที่เกาะแก้วพิสดารและอยู่เติบโตกับพระฤๅษี เมื่อโตขึ้นสุดสาครจึงออกตามหาพ่อ โดยมีม้านิลมังกรเป็นพาหนะ

ประวัติสุดสาคร
        ณ เกาะแก้วพิสดาร นางเงือกได้ให้กำเนิดบุตรชายที่เกิดจากพระอภัยมณี ชื่อ สุดสาคร พระฤๅษีที่อยู่ในเกาะแก้วพิสดารได้เลี้ยงดูและสั่งสอนวิชาต่างๆ ให้สุดสาคร สุดสาครจึงออกเดินทางตามหาพระบิดา ที่ออกจากเกาะแก้วพิสดารไป โดยมีสัตว์เป็นพาหนะคู่ใจ คือ ม้านิลมังกร ทั้งสองได้หลงไปในเกาะผีสิง จึงต้องต่อสู้กับพวกผีทั้งหมดในเกาะเป็นเวลานานพอสมควร จนเกือบจะเสียท่า แต่ก็รอดมาได้ด้วยความช่วยเหลือจากพระฤๅษี
        หลังจากนั้นสุดสาครได้เดินทางต่อจนพบกับชีเปลือย และถูกชีเปลือยใช้อุบายล่อลวงเอาม้านิลมังกรและไม้เท้าวิเศษจนถูกผลักตกหน้าผา เดชะบุญที่สุดสาครไม่ตายจึงกลับมาชิงไม้เท้าวิเศษและม้านิลมังกรคืนไปได้ที่เมืองแห่งหนึ่ง เจ้าเมืองแห่งนั้นได้รับอุปการะสุดสาครไว้เป็นลูกบุญธรรม จนสุดสาครโตขึ้น จึงออกเดินทางตามหาพระบิดาต่อ โดยครั้งนี้เจ้าเมืองการเวกให้เสาวคนธ์และหัสชัยซึ่งเป็นพระโอรสและพระธิดาของพระองค์ พร้อมทั้งกองเรือรบจำนวนหนึ่งออกเดินทางไปกับสุดสาครด้วย ระหว่างทางกองเรือของสุดสาครถูกฝูงผีเสื้อยักษ์โจมตีและจับตัวเอาเสาวคนธ์และหัสชัยไป สุดสาครติดตามไปสังหารผืเสื้อยักษ์และชิงตัวทั้งสองคนกลับคืนมาได้สำเร็จและก็ได้พบพระบิดาในที่สุด

อ้างอิง

https://www.google.co.th/imgres?imgurl=http%3A%2F%2Fimage.dek-d.com%2F25%2F1149947%2F111247252&imgrefurl=https%3A%2F%2Fwriter.dek-d.com%2Fkonmannarak%2Fstory%2Fview.php%3Fid%3D865421&docid=gyrC0BBuD9JfRM&tbnid=mHCSBfVEbi-QHM%3A&vet=1&w=450&h=335&bih=613&biw=1366&q=%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A3&ved=0ahUKEwibuKSNzNrSAhULLI8KHURqBgoQMwgjKAIwAg&iact=mrc&uact=8#h=335&imgrc=mHCSBfVEbi-QHM:&vet=1&w=450

https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A3

วงปี่พาทย์นางหส์


วงปี่พาทย์นางหงส์
วงปี่พาทย์นางหงส์ คือวงปี่พาทย์ชนิดหนึ่งที่นำเอาวงปี่พาทย์ไม้แข็งมาประสมกับวงบัวลอย โดยเปลี่ยนแปลงรูปแบบดังนี้
เหตุที่ใช้ชื่อวงปี่พาทย์นี้ว่าวงปี่พาทย์นางหงส์ก็เนื่องจากเรียกตามชื่อเพลงที่เล่นคือเพลงเรื่องนางหงส์ โดยจะใช้เล่นเฉพาะงานอวมงคลเท่านั้น ปัจจุบันไม่ค่อยเป็นที่นิยม เพราะได้หันมานิยมวงปี่พาทย์มอญแทน
วงปี่พาทย์นางหงส์ เดิมเป็นวงที่ใช้บรรเลงในงานศพของสามัญชน ต่อมาได้นำมาบรรเลงในงานสวดพระอภิธรรมศพเจ้านาย และใช้ในตอนถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระศพ เมื่อครั้งงานพระบรมศพของสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระประสงค์ให้นำวงปี่พาทย์นางหงส์ ของกรมศิลปากรมาประโคมย่ำยาม ต่อจากวงประโคมของงานเครื่องสูง สำนักพระราชวัง จึงนับเป็นครั้งแรกที่ได้นำวงปี่พาทย์นางหงส์มาใช้ในงานพระบรมศพด้วย
เพลงที่บรรเลง เรียกว่า “ เพลงชุดนางหงส์” ประกอบด้วยเพลง
  • เพลงนางหงส์ (หรือเพลงพราหมณ์เก็บหัวแหวน)
  • เพลงสาวสอดแหวน
  • เพลงแสนสุดสวาท
  • เพลงแมลงปอ
  • เพลงแมลงวันทอง
อ้างอิง




ปี่ใน

ปี่ใน เป็นปี่ที่มีขนาดใหญ่และมีเสียงต่ำ ในบรรดาเครื่องเป่าที่มีลิ้นตระกูลปี่ใน ลักษณะเป็นปี่ท่อนเดียว ลำปี่ที่ทำหน้าที่เป็นตัวขยายเสียงเรียกว่า"เลา" เป็นเครื่องเป่าที่มีลิ้น ผสมอยู่ในวงปี่พาทย์มาแต่โบราณ ที่เรียกว่า " ปี่ใน " ก็เพราะว่า ปี่ชนิดนี้ เทียบเสียงตรงกับระดับเสียงที่เรียกว่า " เสียงใน " ซึ่งเป็นระดับเสียงที่วงปี่พาทย์ไม้แข็ง บรรเลงเป็นพื้นฐาน ปี่ในใช้บรรเลงใน[[วงปี่พาทย์เครี่องห้า วงปี่พาทย์เครื่องคู่ วงปี่พาทย์เครื่องใหญ่ และได้ใช้ประกอบการแสดงละครใน

เลาปี่ทำมาจากไม้ เช่น ไม้พยุง ไม้ชิงชัน มีความยาวประมาณ 52 เซนติเมตร ความกว้างประมาณ 4 เซนติเมตร มีลักษณะหัวบานท้ายและป่องตรงกลาง เจาะรูกลางตลอดเลา ด้านบนมีรูเล็กใช้เสียบลิ้นปี่ ด้านล่างรูจะใหญ่ บริเวณเลาปี่ที่ป่องตรงกลางจะเจาะรู 6 รู ลิ้นปี่ทำจากใบตาลนำมาตัดซ้อนกัน 4 ชั้น ตัดผูกกับท่อทองเหลืองเล็กๆ เรียกว่า"กำพวด" ตัวเลาทำด้วยไม้ชิงชัน หรือไม้พยุง กลึงให้ป่องกลาง และบานปลายทั้งสองข้าง ตัวเลาปี่นอกจากจะทำด้วยไม้ แล้วยังพบปี่ซึ่งทำด้วยหิน เป็นของเก่าแต่โบราณ
ภายในเจาะ เป็นรูกลวงตลอดหัวท้ายมีรูสำหรับเปิดปิดนิ้ว 6 รู โดยให้ 4 รูบนเรียงลำดับเท่ากันเว้นห่างพอควร อีก 2 รูอยู่ระหว่างช่องตอนกลางของแต่ละรู ตอนท้ายของเลาปี่จะมีวัสดุกลมแบน ทำด้วยยาง หรือไม้มาเสริม โดยเฉพาะตอนบน สำหรับสอดใส่ลิ้นปี่ เรียกว่า " ทวนบน " ส่วนตอนล่างจะใช้ตะกั่วมาต่อสำหรับลดเลื่อนเสียงเรียกว่า " ทวนล่าง " ลิ้นปี่ประกอบด้วย กำพวด ทำด้วยโลหะ ลักษณะกลมเล็ก เรียว ภายในโปร่งข้างหนึ่งเล็ก ข้างหนึ่งใหญ่ ใบตาล ใช้ใบตาลแก่และแกร่งตัดซ้อน เป็น 4 ชั้น หรือ 4 กรีบ ผูกรัดด้วยเชือกในลักษณะเงื่อน" ตะกรุดเบ็ด " ให้ติดกับกำพวดทางด้านเล็กส่วน ทางด้านใหญ่จะถักหรือเคียนด้วยเส้นเล็กๆ มีขนาดพอดีกับรูปี่ด้านบน (รูเป่า) เพื่อสอดใส่ลิ้นปี่ให้แน่น



จากหลักการเป่าปี่ดังกล่าว ก่อให้เกิดวิธีเป่าและเสียงปี่ที่เป็นพื้นฐานดังนี้
  • เสียงตือ คือเสียงเร
  • เสียงฮอ คือเสียงเร (เสียงเดียวกับ เสียงที่ 1 แต่นิ้วต่างกัน)
  • เสียงแฮ คือเสียงมี
  • เสียงฮือฮอๆ คือเสียงซอล-มี
  • เสียงตอ คือเสียงลา
  • เสียงแต คือเสียงที
  • เสียงอือ คือเสียงเรบน (แหบ)
  • เสียงอื๊อ คือเสียงมีบน (แหบ)
  • เสียงอือ คือเสียงเรบน (แหบ)เหมือนกับ เลข 7
  • เสียงตอ คือเสียงลา (เหมือนกับหมายเลข 5)
  • เสียงตือ คือเสียงซอล (แต่เป็นเสียงบน ที่ใช้บังคับนิ้วเช่นเดียวกับตือ-เรแต่ใช้ลมดันต่างกัน)
  • เสียงแต่ คือเสียงฟา
  • เสียงตือ คือเสียงซอล (เหมือนหมายเลข 11)
  • เสียงตอล็อค คือเสียงลา (แต่ต่างกันเนื่องจากการบังคับลิ้นปี่)

อ้างอิง
https://www.youtube.com/watch?v=Bfk3O1yLRGU

Com

Lorem Ipsum คืออะไร?

Lorem Ipsum คือ เนื้อหาจำลองแบบเรียบๆ ที่ใช้กันในธุรกิจงานพิมพ์หรืองานเรียงพิมพ์ มันได้กลายมาเป็นเนื้อหาจำลองมาตรฐานของธุรกิจดังกล่าวมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 เมื่อเครื่องพิมพ์โนเนมเครื่องหนึ่งนำรางตัวพิมพ์มาสลับสับตำแหน่งตัวอักษรเพื่อทำหนังสือตัวอย่าง Lorem Ipsum อยู่ยงคงกระพันมาไม่ใช่แค่เพียงห้าศตวรรษ แต่อยู่มาจนถึงยุคที่พลิกโฉมเข้าสู่งานเรียงพิมพ์ด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ และยังคงสภาพเดิมไว้อย่างไม่มีการเปลี่ยนแปลง มันได้รับความนิยมมากขึ้นในยุค ค.ศ. 1960 เมื่อแผ่น Letraset วางจำหน่ายโดยมีข้อความบนนั้นเป็น Lorem Ipsum และล่าสุดกว่านั้น คือเมื่อซอฟท์แวร์การทำสื่อสิ่งพิมพ์ (Desktop Publishing) อย่าง Aldus PageMaker ได้รวมเอา Lorem Ipsum เวอร์ชั่นต่างๆ เข้าไว้ในซอฟท์แวร์ด้วย

มันมีที่มาอย่างไร?

ตรงกันข้ามกับความเชื่อที่นิยมกัน Lorem Ipsum ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชุดตัวอักษรที่สุ่มขึ้นมามั่วๆ แต่หากมีที่มาจากวรรณกรรมละตินคลาสสิกชิ้นหนึ่งในยุค 45 ปีก่อนคริสตศักราช ทำให้มันมีอายุถึงกว่า 2000 ปีเลยทีเดียว ริชาร์ด แมคคลินท็อค ศาสตราจารย์ชาวละติน จากวิทยาลัยแฮมพ์เด็น-ซิดนีย์ ในรัฐเวอร์จิเนียร์ นำคำภาษาละตินคำว่า consectetur ซึ่งหาคำแปลไม่ได้จาก Lorem Ipsum ตอนหนึ่งมาค้นเพิ่มเติม โดยตรวจเทียบกับแหล่งอ้างอิงต่างๆ ในวรรณกรรมคลาสสิก และค้นพบแหล่งข้อมูลที่ไร้ข้อกังขาว่า Lorem Ipsum นั้นมาจากตอนที่ 1.10.32 และ 1.10.33 ของเรื่อง "de Finibus Bonorum et Malorum" (The Extremes of Good and Evil) ของ ซิเซโร ที่แต่งไว้เมื่อ 45 ปีก่อนคริสตศักราช หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวที่ว่าด้วยทฤษฎีแห่งจริยศาสตร์ ซึ่งเป็นที่นิยมมากในยุคเรเนสซองส์ บรรทัดแรกของ Lorem Ipsum "Lorem ipsum dolor sit amet.." ก็มาจากบรรทัดหนึ่งในตอนที่ 1.10.32 นั่นเอง
ด้านล่างของหน้านี้คือท่อนมาตรฐานของ Lorem Ipsum ที่ใช้กันมาตั้งแต่คริสตศตวรรษที่ 16ที่ได้รับการสร้างขึ้นใหม่สำหรับผู้ที่สนใจ ประกอบไปด้วย ตอนที่ 1.10.32 และ 1.10.33 จากเรื่อง "de Finibus Bonorum et Malorum" โดยซิเซโร ก็ได้รับการผลิตขึ้นใหม่ด้วยเช่นกันในรูปแบบที่ตรงกับต้นฉบับ ตามมาด้วยเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษจากการแปลของ เอช แร็คแคม เมื่อปี ค.ศ. 1914

ทำไมจึงต้องนำมาใช้?

มีหลักฐานที่เป็นข้อเท็จจริงยืนยันมานานแล้ว ว่าเนื้อหาที่อ่านรู้เรื่องนั้นจะไปกวนสมาธิของคนอ่านให้เขวไปจากส่วนที้เป็น Layout เรานำ Lorem Ipsum มาใช้เพราะความที่มันมีการกระจายของตัวอักษรธรรมดาๆ แบบพอประมาณ ซึ่งเอามาใช้แทนการเขียนว่า ‘ตรงนี้เป็นเนื้อหา, ตรงนี้เป็นเนื้อหา' ได้ และยังทำให้มองดูเหมือนกับภาษาอังกฤษที่อ่านได้ปกติ ปัจจุบันมีแพ็กเกจของซอฟท์แวร์การทำสื่อสิ่งพิมพ์ และซอฟท์แวร์การสร้างเว็บเพจ (Web Page Editor) หลายตัวที่ใช้ Lorem Ipsum เป็นแบบจำลองเนื้อหาที่เป็นค่าตั้งต้น และเวลาที่เสิร์ชด้วยคำว่า 'lorem ipsum' ผลการเสิร์ชที่ได้ก็จะไม่พบบรรดาเว็บไซต์ที่ยังคงอยู่ในช่วงเริ่มสร้างด้วย โดยหลายปีที่ผ่านมาก็มีการคิดค้นเวอร์ชั่นต่างๆ ของ Lorem Ipsum ขึ้นมาใช้ บ้างก็เป็นความบังเอิญ บ้างก็เป็นความตั้งใจ (เช่น การแอบแทรกมุกตลก)

จะนำมาใช้ได้จากที่ไหน?

มีท่อนต่างๆ ของ Lorem Ipsum ให้หยิบมาใช้งานได้มากมาย แต่ส่วนใหญ่แล้วจะถูกนำไปปรับให้เป็นรูปแบบอื่นๆ อาจจะด้วยการสอดแทรกมุกตลก หรือด้วยคำที่มั่วขึ้นมาซึ่งถึงอย่างไรก็ไม่มีทางเป็นเรื่องจริงได้เลยแม้แต่น้อย ถ้าคุณกำลังคิดจะใช้ Lorem Ipsum สักท่อนหนึ่ง คุณจำเป็นจะต้องตรวจให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรน่าอับอายซ่อนอยู่ภายในท่อนนั้นๆ ตัวสร้าง Lorem Ipsum บนอินเทอร์เน็ตทุกตัวมักจะเอาท่อนที่แน่ใจแล้วมาใช้ซ้ำๆ ทำให้กลายเป็นที่มาของตัวสร้างที่แท้จริงบนอินเทอร์เน็ต ในการสร้าง Lorem Ipsum ที่ดูเข้าท่า ต้องใช้คำจากพจนานุกรมภาษาละตินถึงกว่า 200 คำ ผสมกับรูปแบบโครงสร้างประโยคอีกจำนวนหนึ่ง เพราะฉะนั้น Lorem Ipsum ที่ถูกสร้างขึ้นใหม่นี้ก็จะไม่ซ้ำไปซ้ำมา ไม่มีมุกตลกซุกแฝงไว้ภายใน หรือไม่มีคำใดๆ ที่ไม่บ่งบอกความหมาย
อ้างอิง
http://th.lipsum.com/